1. การดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง
going concern ผู้บริหารของกิจการต้องประเมินความสามารถของกิจการว่าจะสามารถดำเนินงานต่อไปได้เป็นเวลาอย่างน้อย 12 เดือนนับจากวันที่ในงบดุลได้หรือไม่ ถ้าได้กิจการควรจัดทำ
งบการเงินตามหลักเกณฑ์การดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง แต่ถ้ากิจการมีความตั้งใจที่จะเลิกกิจการ หรือมีความไม่แน่นอนว่าจะดำเนินกิจการได้ต่อเนื่องต่อไปอีก 12 เดือน กิจการต้องเปิดเผยข้อเท็จจริงดังกล่าวในหมายเหตุประกอบงบการเงิน เช่นกิจการมีผลขาดทุนมากจนทำให้ส่วนของเจ้าของติดลบ หรือกิจการมีหนี้สินหมุนเวียนมากกว่าสินทรัพย์ และกิจการไม่มีแนวทางในการแก้ปัญหาในเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรม เช่น กู้ยืมเงินระยะยาว ขายสินทรัพย์ที่ไม่ได้ใช้ หรือเรียกหุ้นเพิ่ม ก็ไม่เหมาะสมที่จะใช้หลักการดำเนินงานต่อเนื่อง
2. เกณฑ์คงค้าง accrual basis เกณฑ์การบันทึกรายได้ และค่าใช้จ่าย ในการวัดผลการดำเนินงานจะยึดเกณฑ์ที่ว่า รายได้หรือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในงวดบัญชีใดก็ให้บันทึกเป็นรายการในงวดบัญชีนั้น เช่นกิจก่อสร้าง ซื้อวัสดุก่อสร้างเป็นเงินเชื่อ และนำมาก่อสร้างทันทีค่าใช้จ่ายก็คือวัสดุต่อสร้าง ส่วนที่สร้างทันทีก็ต้องบันทึกเป็นงานระหว่างทำกับรายได้ตามส่วนงานที่เสร็จ
3. ความสม่ำเสมอ consisitency การจัดทำและนำเสนองบการเงินเพื่อวัตถุประสงค์ทั่วไป ต้องมั่นใจว่างบการเงินสามารถเปรียบเทียบกันได้กันงบการเงินงวดก่อนของกิจการ และกับงบการเงินของกิจการอื่นประเภทเดียวกัน การเปรียบเทียบกันได้งบการเงินนั้นต้องจัดทำขึ้นโดยใช้นโยบายบัญชี และการจัดประเภทรายการอย่างสม่ำเสมอเช่นเดียวกันทุกงวดบัญชี ยกเว้น ลักษณะการดำเนินงานเปลี่ยนแปลงไปอย่างเป็นสาระสำคัญ การเปลี่ยนแปลงการแสดง และจัดประเภทรายการ เกิดจากข้อกำหนดของมาตรฐานการบัญชีที่ปรับปรุงใหม่ หรือการตีความมาตรฐานการบัญชีทุกประเด็น มีผลกระทบต่อการจัดประเภทของบัญชีของงวดบัญชีก่อนให้เหมาะสมกับงวดบัญชีปีปัจจุบัน ตัวอย่างในงวดบัญชีก่อนมีลูกหนี้จากการขายผ่อนชำระมีจำนวนน้อยที่แสดงในลูกหนี้การค้า ต่อมากิจการได้มีการส่งเสริมการขายแบบผ่อนชำระในปีปัจจุบัน จึงทำให้มีลูกหนี้การขายผ่านชำระเป็นจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างเป็นสาระสำคัญ จึงควรแยกแสดงลูกหนี้จากการขายผ่อนชำระเป็นรายการอิสระจากลูกหนี้การค้าในงบดุลปีปัจจุบัน งบดุลปีก่อนจึงต้องแสดงแยกรายการลูกหนี้จากการขายผ่อนชำระออกจากลูกหนี้การค้าเช่นเดียวกับงบดุลในปีปัจจุบัน
4. ความมีนัยสำคัญและการรวมยอด materialitiy and aggegation งบการเงินเป็นผลของการรวบรวมรายการบัญชีด้วยการจัดกลุ่มเข้าตามลักษณะ และหน้าที่ของรายการนั้น ๆ เพื่อนำเสนอข้อมูลให้กระชับดูสบายตา และจัดเป็นรายบรรทัดเพื่อแสดงในงบการเงินหรือแสดงรายละเอียดของบัญชีที่มีลักษณะ และหน้าที่แบบเดียวกันในกลุ่มเดียวกัน พร้อมทั้งอ้างอิงเลขหมายของหมายเหตุประกอบงบการเงินที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องตรงกัน กิจการควรเลือกแยกแสดงรายการสำหรับรายการบัญชีที่มีนัยสำคัญ เช่นพิจารณาจากขนาด และลักษณะของรายการไปพร้อมกัน โดยพิจารณาอิทธิพบต่อการตัดสินเชิงเศรษฐกิจของผู้ใช้งบการเงิน อย่างเช่น สินทรัพย์ที่มีลักษณะเดียวกันก็ให้แสดงรวมกัน แต่ถ้าหากสินทรัพย์มีขนาดและลักษณะแตกต่าง จนมีนัยสำคัญก็ควรแสดงแยกอิสระออกจากกัน
5. การหักกลบ offsetting การแสดงรายการสินทรัพย์และหนี้สิน ในงบดุล หรือ รายได้ และค่าใช้จ่าย ในงบกำไรขาดทุน จะนำมาหักกลบลบกันไม่ได้ เช่น นาย ก.เป็นทั้งลูกหนี้ และเจ้าหนี้ ในขณะเดียวกัน กิจการจะนำรายการทั้ง 2 หักกลบลบกันไม่ได้ ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ใช้งบการเงินเข้าใจผิด เว้นแต่เป็นรายการที่มีมาตรฐานการบัญชีกำหนดไว้ หรืออนุญาตให้กระทำได้ตามกฎหมาย เช่นนำบัญชีค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญไปแสดงหักจากบัญชีลูกหนี้ที่เกี่ยวข้อง กระทำได้เพราะมาตรฐานบัญชีมีกำหนด
6. ข้อมูลเปรียบเทียบ comparative informations การเปรียบเทียบข้อมูลที่เป็นตัวเลขของรายการในงบการเงินงวดปัจจุบันกับงบการเงินงวดก่อน โดยแสดงข้อมูลเปรียบเทียบทุกรายการที่มีนัยสำคัญโดยให้ยึดงบการเงินของงวดปัจจุบันเป็นหลัก เพื่อความเหมาะสมถูกต้องกิจการต้องปรับปรุงหรือแก้ไขการแสดงประเภทรายการของงบการเงินปีก่อนให้สอดคล้องกับงบการเงินปีปัจจุบัน และให้เปิดเผยในหมายเหตุประกอบงบการเงินของปีปัจจุบัน แต่ถ้าหากไม่สามารถจัดประเภทบัญชีให้เข้ากับงบการเงินงวดปัจจุบันควรเปิดเผยถึงเหตุผลที่ไม่สามารถจัดประเภทรายการให้เข้ากับงบการเงินงวดปัจจุบัน
งบการเงิน (Financial Statement) หมายถึง รายงานทางการเงินที่แสดงฐานะทางการเงิน และผลการดำเนินงานของกิจการ ในระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง ณ วันสิ้นงวดบัญชี อาจจะเป็นระยะเวลา 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี
ส่วนประกอบของงบการเงินที่สมบูรณ์ ควรประกอบด้วย
1. งบดุล (Balance Sheet)
2.งบกำไรขาดทุน (Profit and Loss Statement)
3.งบแสดงการเปลี่ยนแปลงในส่วนของเจ้าของ (Statement of changes in owner’s equity)
4.งบกระแสเงินสด ( Cash Flow statement)
5.หมายเหตุประกอบเงินการเงิน (Note to Financial Statement)